นมแม่ดีที่สุด

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้คุณเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะเราเชื่อว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทารก ทั้งยังให้ประโยชน์กับทารกในหลายด้าน การเตรียมตัวช่วงก่อนและระหว่างการให้นมทารกนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง คุณควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในสัดส่วนที่สมดุล

เมื่อคุณตัดสินใจที่จะไม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หรือเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ร่วมกับการใช้นมสูตรสำหรับทารก อาจลดประสิทธิภาพในการสร้างน้ำนมของคุณเองและทำให้การกลับมาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อีกครั้งทำได้ยากขึ้น ดังนั้นก่อนเริ่มใช้นมสูตรสำหรับทารก คุณควรคำนึงถึงผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคมร่วมด้วย หากจำเป็นต้องใช้นมสูตรสำหรับทารก คุณควรปฏิบัติตามข้อแนะนำในการเตรียม การใช้ และการเก็บรักษา อย่างระมัดระวังเพื่อสุขภาพที่ดีของทารก

เพื่อช่วยในการตัดสินใจที่ดีที่สุดเกี่ยวกับวิธีให้อาหารทารก แนะนำปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทุกครั้ง

วิธีบรรเทาอาการแพ้ท้อง พะอืดพะอม คลื่นไส้ ให้คุณแม่สบายขึ้น

เลือกอ่านตามหัวข้อที่ต้องการ

อาการแพ้ท้องเกิดจากอะไร

เมื่อไหร่ถึงจะหายอาการแพ้ท้อง

5 วิธีบรรเทาอาการแพ้ท้อง

อาการแพ้ท้องระดับที่ 1 แบบเบาๆ

อาการแพ้ท้องระดับที่ 2 ปานกลาง

อาการแพ้ท้องระดับที่ 3 รุนแรงมาก

อาการแพ้ท้องแบบไหนที่ควรไปพบแพทย์

สรุป

อาการแพ้ท้องเป็นภาวะปกติที่คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนต้องเผชิญ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรก ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายอย่างรวดเร็ว อาการที่พบบ่อย ได้แก่ เวียนศีรษะ พะอืดพะอม คลื่นไส้ อาเจียน โดยเฉพาะในตอนเช้า หรือที่เรียกว่า Morning Sickness นอกจากนี้ คุณแม่อาจรู้สึกเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ง่วงบ่อย รวมถึงมีความไวต่อกลิ่นมากขึ้น จนทำให้เหม็นอาหารหรือเกิดอาการแพ้ท้องหนักถึงขั้นกินอะไรไม่ได้เลย

หากคุณแม่รู้สึกว่าอาการแพ้ท้องรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน บทความนี้ได้รวบรวม วิธีแก้อาการแพ้ท้อง วิธีบรรเทาอาการคลื่นไส้ อาหารที่ช่วยลดอาการแพ้ท้อง และแนวทางเลือกอาหารที่เหมาะสมในช่วงตั้งครรภ์ เพื่อช่วยให้คุณแม่ดูแลตัวเองได้ดีขึ้น พร้อมคำตอบสำหรับคำถามยอดฮิตอย่าง “แพ้ท้องต้องกินอะไร?” ครบถ้วนในบทความนี้

อาการแพ้ท้องเกิดจากอะไร

อาการแพ้ท้องมี 3 ระดับ และระดับที่มากสุดที่พบไม่บ่อยนัก สาเหตุเกิดจากระดับฮอร์โมนที่ชื่อว่า "HCG" (Human Chorionic Gonadotropin) ในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น จนทำให้คุณแม่เกิดความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ  ดังนี้​

  • จิตใจอ่อนไหว เครียด วิตกกังวลง่าย อารมณ์แปรปรวน​

  • ประสาทรับกลิ่นมีความไวมากขึ้น เช่น เหม็นอาหาร เหม็นกลิ่นต่างๆ​

  • รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ และอ่อนเพลียง่าย​

  • เบื่ออาหารที่เคยทาน แต่อยากทานอาหารแปลกๆ

 

เมื่อไหร่ถึงจะหายอาการแพ้ท้อง

สำหรับแม่ตั้งครรภ์ที่มีอาการแพ้ท้องต่างๆ เช่น รู้สึกเวียนหัว คลื่นไส้ เหนื่อยง่าย หรืออาเจียนเป็นบางครั้งคราว ไม่ต้องกังวล เพราะอาการแพ้ท้องเหล่านี้จะหายไปเมื่อมีอายุครรภ์ได้ประมาณ 3 เดือน แต่หากพบว่า มีอาการแพ้ท้องที่หนักกว่านี้ เช่น อาเจียนบ่อย จนคออักเสบ และพบว่าตัวเองไม่สามารถกินอะไรได้เลย ควรปรึกษาแพทย์โดยด่วน

 

 

5 วิธีบรรเทาอาการแพ้ท้อง

อาการแพ้ท้องเป็นเรื่องปกติที่คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนต้องเผชิญ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรก ซึ่งอาจทำให้รู้สึกเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน และเบื่ออาหาร บางคนอาจมีอาการหนักถึงขั้นกินอะไรไม่ลงเลย ส่งผลต่อร่างกายและอารมณ์โดยรวม แต่โชคดีที่มีวิธีการบรรเทาอาการแพ้ท้อง พะอืดพะอม แก้ยังไง แล้วเมื่อแพ้ท้องกินอะไรดี ซึ่งมีได้หลายวิธี นี่คือ 5 เคล็ดลับวิธีแก้อาการแพ้ท้อง และทำให้คุณแม่รู้สึกดีขึ้น

  1. กินอาหารทีละน้อย แต่บ่อยขึ้น เช่น ทุก 2-3 ชั่วโมง อาหารที่ย่อยง่าย เช่น ขนมปังกรอบ กล้วย ข้าวต้ม หรือซุปอุ่น ๆ เป็นอาหารที่เหมาะสำหรับคุณแม่ที่มีอาการแพ้ท้อง เพราะสามารถช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องและทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอ
  2. จิบน้ำบ่อย ๆ ป้องกันภาวะขาดน้ำ คุณแม่ควรจิบน้ำเปล่า หรือน้ำที่มีส่วนช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้อง เช่น น้ำขิง น้ำมะนาวผสมน้ำผึ้ง หรือชาสมุนไพรอ่อน ๆ
  3. หลีกเลี่ยงกลิ่นที่กระตุ้นให้คลื่นไส้ ด้วยคุณแม่ไวต่อกลิ่นมากขึ้น จนบางครั้งกลิ่นอาหารหรือเครื่องปรุงที่เคยชอบกลายเป็นตัวกระตุ้นให้แพ้ท้อง
  4. เลือกอาหารที่ช่วยลดอาการแพ้ท้อง อาหารบางชนิดสามารถช่วยลดอาการแพ้ท้องได้ เช่น ขิง, มะนาว, โยเกิร์ต, แตงโมหรือผลไม้ที่มีน้ำเยอะ และแครกเกอร์หรือขนมปังกรอบ อาหารเหล่านี้ไม่เพียงแค่ช่วยลดอาการคลื่นไส้ แต่ยังช่วยให้คุณแม่รู้สึกดีขึ้น
  5. การพักผ่อนให้เพียงพอและหาวิธีผ่อนคลายจะช่วยให้คุณแม่รู้สึกดีขึ้น การบรรเทาอาการแพ้ท้องอาจเป็นเรื่องง่าย แต่ถ้าหากคุณแม่ยังคงรู้สึกแพ้ท้องหนักมาก กินอะไรไม่ได้เลย หรือร่างกายเริ่มอ่อนแอ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติม และตรวจสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์ให้ปลอดภัย

นอกจากนั้น พ่อแม่ควรเข้าใจว่า อาการแพ้ท้อง เป็นเรื่องธรรมชาติที่มากับการตั้งครรภ์ มันจึงไม่สามารถจะป้องกันอะไรได้ เพราะอาการแพ้ท้องเป็นอาการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติของแม่ตั้งครรภ์ แต่อย่างน้อย แม่สามารถบรรเทาอาการให้น้อยลงได้ ด้วยวิธีเช่น ผักผ่อนมากๆ ให้เพียงพอ อย่าเครียดง่าย พยายามเพิ่มการรับประทานผัก ผลไม้มาก และงดอาหารมัน เช่น อาหารทอด อาหารผัด อย่าทานครั้งละมากๆ แต่ให้ทานบ่อยๆ แทน และงดของต้องห้ามของคนท้องทุกอย่าง เช่น เหล้า บุหรี่

 

 

อาการแพ้ท้องระดับที่ 1 แบบเบาๆ

อาการ Morning Sickness พบได้ในคนท้องส่วนมาก คือเป็นกันมากที่สุด เป็นอาการคลื่นไส้ เวียนศีรษะระดับเล็กน้อย มาเป็นครั้งคราว และอาการพวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นในตอนเช้า ส่งผลให้ไม่ค่อยเจริญอาหาร และอาจมีการอาเจียนบ้างเป็นครั้งคราว ไม่บ่อย ถือเป็นอาการปกติธรรมชาติของคนท้องทั่วไป ไม่ควรกังวลใดๆ ควรลดอาการแพ้ท้องนี้ด้วยการดื่มน้ำอุ่นจัด ๆ เป็นประจำ หรือทุกครั้งเมื่อรู้สึกคลื่นไส้ และกินอาหารที่ย่อยง่าย หลีกเลี่ยงอาหารมันๆ และของคาวจะดีที่สุด

 

 

อาการแพ้ท้องระดับที่ 2 ระดับกลาง (ต้องพบแพทย์)

ในการแพ้ท้องระดับ 2 นี้ คนท้องจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน อาจถึงระดับที่รับประทานอาหารยาก แม้พักผ่อนเพียงพอ แต่อาการอาจไม่ดีขึ้นเลย พบว่าปัสสาวะมีสีเข้มขึ้น หากคุณแม่ตั้งครรภ์ พบว่าตัวเองมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

 

 

อาการแพ้ท้องระดับที่ 3 Hyperemesis Gravidarum (HG)(ต้องพบแพทย์)

อาการแพ้ท้องระดับที่หนักที่สุด คือระดับ 3 นี้ที่จะพบน้อยมากที่สุด อาการคือ คนท้องจะไม่สามารถรับประทานอาหารได้เลย คลื่นไส้หนัก และอาเจียนอย่างหนัก แทบจะตลอดเวลา ถึงขนาดทำให้ร่างกายขาดน้ำ บางคนอาจเลือดปนมากับอาเจียน พบว่าตัวเองมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที อาการแพ้ท้องในระดับนี้ โดยทั่วไป ร่างกายจะแสดงอาการอย่างเร็ว และยังจะกินระยะเวลาการแพ้ท้องนานกว่าคนท้องทั่วไปอีกด้วย

 

ใครบ้างที่เสี่ยงมีอาการแพ้ท้องในระดับ 3

  • คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ครั้งแรก
  • คุณแม่ที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไป
  • คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ลูกแฝด
  • คุณแม่ที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไป

ระยะเวลาเริ่มมีอาการแพ้ท้อง

ส่วนมาก อาการแพ้ท้องมักเป็นกันในช่วงไตรมาสที่ 1 ของการตั้งท้อง ถ้าเป็นผู้ที่มีอาการแพ้ท้องเร็ว อาจจะเริ่มมีอาการในช่วงที่รู้สึกว่า รอบประจำเดือนมาช้า มีหลายกรณีที่มีอาการแพ้ท้องตั้งแต่ประมาณ 4 สัปดาห์จนถึงประมาณ 15 สัปดาห์ และช่วงเวลาที่จะมีอาการแพ้ท้อง คลื่นไส้ ที่จะทรมานที่สุดจะเป็นช่วง 8-9 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ แต่อย่าลืมว่า ช่วงเวลาของการแสดงอาการแพ้ท้องจะไม่เหมือนกันในแต่ละคน และบางคนเป็นมาก บางคนเป็นน้อย หรือไม่เป็นเลยก็มีเช่นกัน

 

5 อาการที่พบบ่อยของอาการแพ้ท้อง

  1. จมูกไวต่อกลิ่น เหม็นง่าย
  2. เวียวหัว และคลื่นไส้อาเจียน โดยไม่มีเหตุผล
  3. อึดอัดท้องและหน้าอก
  4. ความรู้สึกอยากกินอาหารที่เปลี่ยนไป
  5. รู้สึกง่วงนอนง่ายและบ่อยกว่าปกติ

 

 

อาการแพ้ท้องแบบไหนที่ควรไปพบแพทย์

แม้อาการแพ้ท้องจะเป็นเรื่องปกติในช่วงตั้งครรภ์ แต่ในบางกรณีอาจรุนแรงจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์ หากพบอาการผิดปกติต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

-อาเจียนรุนแรงและต่อเนื่อง จนไม่สามารถรับประทานหรือดื่มน้ำได้ มีอาการขาดน้ำ 

-น้ำหนักลดลงมากผิดปกติ รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง และเวียนศีรษะบ่อย

-ปวดท้องรุนแรง หรือมีไข้ร่วมด้วย

-อาเจียนเป็นเลือด หรือมีเลือดปนในน้ำดี

-ปัสสาวะน้อยผิดปกติ หรือไม่ปัสสาวะเลย

 

 

อาการแพ้ท้อง เป็นอาการที่พบได้บ่อยในคุณแม่ตั้งครรภ์ โดยมักเกิดในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่ คลื่นไส้ พะอืดพะอม อาเจียน และอาการอื่น ๆ เช่น เวียนศีรษะ เหนื่อยง่าย และมีความไวต่อกลิ่น สิ่งที่เราควรสังเกตคืออาการที่บ่งบอกและเห็นได้ชัด หากเกิดเหตุการณ์ที่มากกว่านั้นและมีความกังวลแนะนำให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจและดูแลก่อนอาการจะมากขึ้นกว่าเดิม

คำนวณอายุครรภ์

กรุณาระบุวันครบกำหนดคลอด

กรุณาระบุไม่เกิน 40 สัปดาห์
ไม่ทราบวันครบกำหนดคลอด

คำนวณวันครบกำหนดคลอด

กรุณาระบุวันแรกที่ประจำเดือนมาครั้งสุดท้าย

กรุณาระบุไม่เกิน 40 สัปดาห์

รอบประจำเดือนของคุณอยู่ในช่วงกี่วัน

อายุครรภ์สัปดาห์อื่น

วันครบกำหนดคลอดคือ

Due Date Result Label

8 april 2018

Week Result Label

อายุครรภ์สัปดาห์อื่น

อายุครรภ์ของคุณแม่คือ

สมัครสมาชิก

อายุครรภ์สัปดาห์อื่น

บทความที่เกี่ยวข้อง

carelinepic_resized2

ไฮ-แฟมิลี่ แคร์ไลน์

บริการให้คำปรึกษาในทุกๆเรื่องที่คุณแม่กังวลใจ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ พยาบาล นักโภชนาการและคุณแม่ ที่พร้อมอยู่เคียงข้าง ตลอด 24 ชั่วโมง

x